7 Best Oils for Hair Health
สวยสะกดทุกสายตา ด้วยผมสลวยน่าสัมผัส
คุณกำลังเผชิญกับปัญหาเส้นผมที่น่าหงุดหงิดใจหรือเปล่า?
ผมขาดหลุดล่วง, ผมยาวช้า, ผมชี้ฟู ไม่มีน้ำหนัก, ผมแห้งกร้านหยาบกระด้าง และปัญหาอื่นๆอีกมากมาย คุณพยายามที่จะจบปัญหาเหล่านั้นด้วยการมองหาผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะอยู่ใช่ไหมคะ?
และยังไม่เจอที่ถูกใจและตอบโจทย์ใช่ไหมคะ?... เรามีทางเลือกธรรมชาติมานำเสนอนะ!
บางครั้งสาเหตุที่เราต้องวนเวียนกับปัญหาเส้นผมซ้ำๆ อาจเกิดจากผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่เราใช้ๆกันอยู่ในปัจจุบันนี้ก็ได้นะคะ เราอาจจะแพ้สารซิลิโคน น้ำหอมสังเคราะห์ และสารเคมีอื่นๆที่อยู่ในผลิตภัณฑ์เหล่านั้นโดยไม่รู้ตัว เพราะขึ้นชื่อว่าสารเคมี อย่างไรสะก็ย่อมเกิดการสะสม และส่งผลข้างเคียงได้เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ
เราไม่ได้ ห้าม ให้หยุดใช้ แต่เราอยากจะบอกว่า คุณต้องพักเส้นผมและหนังศีรษะจากสารเคมีเหล่านั้นเสียบ้าง แล้วหันมาบำรุงด้วยวิธีทางธรรมชาติสลับกันไป เพื่อสุขภาพที่ดีของเส้นผม
TROPICALIFE แนะนำการบำรุงผมด้วย Carrier Oil น้ำมันสกัดจากพืชธรรมชาติ ใช้หมักผม หรือใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม ซึ่งความจริงแล้วเป็นวิธีที่นิยมใช้กันมาตั้งแต่สมัยโบร่ำโบราณ เพียงแต่ว่าในอดีตนั้นเรามีน้ำมันเพียงไม่กี่ชนิดที่นำมาใช้ หลักๆเช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก แต่ในปัจจุบันมีน้ำมันหลากหลายมากขึ้นเพื่อให้เลือกใช้ และแต่ละชนิดก็โดดเด่นไม่แพ้กันเลย
ประโยชน์โดยรวมของการใช้ Carrier Oil บำรุงเส้นผม
- กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมได้ดี
- แก้ปัญหาหนังศีรษะแห้งกร้าน
- ขจัดปัญหารังแค คันหนังศีรษะ ระคายเคือง
- ลดความเสียหายที่ได้รับจากแสงแดด / ความร้อนจากอุปกรณ์แต่งทรงผม
- เพิ่มความเงางามให้เส้นผม ลดการชี้ฟูของเส้นผม
- บำรุงให้รากผมแข็งแรง ไม่ขาดหลุดร่วงได้ง่าย
- ช่วยให้ผมมีน้ำหนัก นุ่มสลวย
- ปรับสมดุลการผลิตน้ำมันของหนังศีรษะ
- เสริมเกราะป้องกันผมจากมลภาวะต่างๆ
1.ARGAN OIL (น้ำมันอาร์แกน)
เหมาะสำหรับ: ผมแห้งเสีย, ผมเปราะหลุดร่วงง่าย, ผมที่ต้องเจอความร้อนบ่อยๆ, ผมมันเยิ้ม
ประโยชน์หลัก: ปกป้องผมจาก UV, บรรเทาความเสียหายจากความร้อนของอุปกรณ์จัดแต่งเส้นผม, มอบความชุ่มชื้นให้ผมนุ่มสลวย, เพิ่มความเงางามเส้นผม
น้ำมันยอดนิยมที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลก แต่ที่ได้รับความนิยมสุดๆกว่าใคร เห็นทีจะเป็นน้ำมันอาร์แกนจากประเทศ Morocco เพราะถูกยอมรับว่ามีความเป็นเลิศทางด้านสภาพแวดล้อม ความเชี่ยวชาญของกระบวนการผลิต ทำให้น้ำมันที่ได้จากประเทศนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพสูงสุดอย่างไร้ข้อครหา
Argan Oil อุดมไปด้วย Antioxidant & Vitamin E ไม่เพียงแต่เลอค่าในด้านการบำรุงผิว แต่ยังเลอค่าเมื่อใช้บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ
2. JOJOBA OIL (น้ำมันโจโจ้บา)
เหมาะสำหรับ: ผมแห้งเสีย, ผมที่ต้องเจอมลภาวะ, รังแค, หนังศีรษะแห้ง
ประโยชน์หลัก: มอบความชุ่มชื้นให้เส้นผมและหนังศีรษะ คืนความนุ่มสลวยสู่เส้นผม บำรุงให้ผมเงางามมีน้ำหนัก สุขภาพดี
อีกหนึ่งน้ำมันสารพัดประโยชน์ ดีงามทั้งการบำรุงผิว, นวดผิว, บำรุงผม และอื่นๆอีกมากมาย เพราะน้ำมันโจโจ้บานี้มีองค์ประกอบของกรดไขมันที่เหมือนกับที่พบในผิวหนังมนุษย์ จึงเข้ากันได้อย่างดี หมดห่วงเรื่องการแพ้ระคายเคือง jojoba oil สามารถซึมลึกเข้าสู่รูขุมขนบนหนังศีรษะได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเข้าไปปรับสมดุลการผลิตน้ำมันบนหนังศีรษะให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่อุดตัน ไม่มันเยิ้ม ผมของคุณจึงมีสุขภาพดีอย่างสมบูรณ์แบบ
3.SWEET ALMOND (น้ำมันสวีทอัลมอนด์)
เหมาะสำหรับ: ผมแห้งเสีย, รังแค, ผมขาดหลุดร่วงง่าย
ประโยชน์หลัก: ผนึกคามชุ่มชื้นให้หนังศีรษะและเส้นผมอย่างยาวนาน, ลดการหลุดร่วงของเส้นผม, กระตุ้นให้ผมยาวเร็วขึ้น, เสริมสร้างให้ผมสุขภาพดีขึ้น
สกัดได้จากเมล็ดอัลมอนด์ที่เราคุ้นเคยกันดี ถั่วที่ไม่ได้มีดีแค่ความอร่อยเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ในการบำรุงด้านความงามอีกมากมาย almond oil อุดมไปด้วยกรดไขมัน โปรตีน วิตามิน และเป็นแหล่งรวมสารต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่ง เมื่อใช้ในการบำรุงผม จะมีประสิทธิภาพในการ ฟื้นฟูผมแห้งเสียได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยลดปัญหาผมแตกปลาย และลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผม นับว่าเป็นน้ำมันอีกชนิดที่ควรมีติดบ้านไว้ค่ะ
4. OLIVE OIL (น้ำมันมะกอก)
เหมาะสำหรับ: ผมเสีย, ผมที่ต้องเผชิญมลภาวะ, ผมชี้ฟู, ปัญหารังแค
ประโยชน์: ป้องกันความเสียหายของเส้นผม ที่ได้รับจากอุปกรณ์ไฟฟ้าจัดแต่งทรงผมต่างๆ, บำรุงให้ผมเงางามเปล่งปลั่ง, มอบความชุ่มชื้นสู่หนังศีรษะ, บำรุงให้ผมสุขภาพดี
น้ำมันที่ทุกคนรู้จักดีและเชื่อว่าหลายคนต้องเคยใช้ เพราะเป็นน้ำมันที่ตีคู่มากับน้ำมันมะพร้าวเลยก็ว่าได้ มีต้นกำเนิดการใช้งานมาตั้งแต่สมัยโบราณและยังคงได้รับความนิยมใช้อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าน้ำมันนี้จะยังคงได้รับความนิยมต่อๆไปอย่างไมมีที่สิ้นสุด เพราะสามารถหาซื้อได้ง่ายและมีราคาค่อนข้างถูก แต่สรรพคุณก็ไม่น้อยหน้าใครเลย
Olive oil มีคุณสมบัติที่โดดเด่นในการมอบความชุ่มชื้น และป้องกันการสูญเสียน้ำของหนังศีรษะ จึงทำให้กักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้อย่างยาวนาน สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับปัญหารังแค เพียงแค่ใช้น้ำมันมะกอกผสมน้ำมะนาวเล็กน้อย นวดไปที่หนังศีรษะ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพียงเท่านี้ปัญหารังแคก็จะไม่มากวนใจคุณอีกต่อไป
5. GRAPE SEED OIL (น้ำมันเมล็ดองุ่น)
เหมาะสำหรับ: ผมเปราะบาง, ผมมันเยิ้ม, ปัญหารังแค, ลดการหลุดร่วงของเส้นผม
ประโยชน์หลัก: มอบความชุ่มชื้น, ช่วยให้เส้นผมแข็งแรง, บำรุงให้เส้นผมมีน้ำหนักไม่ชี้ฟู, ลดปัญหาผมแตกปลาย, เร่งการเจริญเติบโตของเส้นผม
น้ำมันเมล็ดองุ่นมีความเนียนนุ่มและเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังมีสีและกลิ่นที่อ่อนโยนใช้งานง่าย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ได้รับความนิยมในการใช้งานอย่างมากมายในปัจจุบันนี้
น้ำมันเมล็ดองุ่นมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการเติบโตของเส้นผม และยังเป็นคู่ต่อสู้ตัวฉกาจของรังแคกวนใจ อีกทั้งยังช่วยปลอบประโลมหนังศีรษะที่อักเสบเป็นแผล การบำรุงผมด้วยน้ำมันชนิดนี้จะช่วยคืนค่าความชุ่มชื้นของหนังศีรษะอย่างเป็นธรรมชาติ และช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนบนหนังศีรษะออกอย่างหมดจด
6. MELON OIL (น้ำมันเมลอน)
เหมาะสำหรับ: หนังศีรษะบอบบาง, แพ้ง่าย, ผมยาวช้า, ได้รับความเสียหายจากปัญหาผมต่างๆ
ประโยชน์หลัก: บรรเทาอาการอักเสบของหนังศีรษะ, ชะล้างสารเคมีตกค้างออกจากเส้นผมและหนังศีรษะ, บำรุงให้ผมแข็งแรงอย่างสมบูรณ์แบบ มีสุขภาพดียาวนาน
นอกจากจะยืนหนึ่งเรื่องการบำรุงผิวอย่างน่าอัศจรรย์แล้ว ในด้านการบำรุงผมก็ไม่น้อยหน้า สมกับเป็นน้ำมันมหัศจรรย์ที่กำลังได้รับความนิยมสุดๆในยุคนี้ melon oil มีประกรดไขมันจำเป็น วิตามิน โปรตีน แร่ธาตุ ที่มีประโยชน์สำหรับการบำรุงด้านความงามอย่างทรงพลัง โดยเฉพาะประสิทธิภาพในการเร่งการเจริญเติบโตของเส้นผม ข้อนี้โดดเด่นที่สุด และไม่ใช่เติบโตแบบธรรมดา melon oil เนรมิตให้เส้นผมของคุณยาวสลวย นุ่มน่าสัมผัส แข็งแรงไม่ขาดหลุดร่วงง่าย
7.BAOBAB OIL (น้ำมันบาวบับ)
เหมาะสำหรับ: ผมเปราะบาง, ยาวช้า, ชี้ฟูไม่ชุ่มชื้น
ประโยชน์หลัก: บำรุงให้ผมเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ, ไม่หลุดร่วงง่าย, ลดการแห้งชี้ฟู
น้ำมันที่สกัดจากผลของบาวบับ พืชที่มีอายุยืนที่สุดในโลกอีกชนิดหนึ่ง มีเรื่องเล่าน่าทึ่งเกี่ยวกับการกักเก็บน้ำ เพื่อให้พืชนั้นคงอยู่ได้แม้ในฤดูที่แห้งแล้งที่สุด ดังนั้นน้ำมันนี้จึงมีความโดดเด่นเรื่องความชุ่มชื้นและความแข็งแรงเช่นกัน
Baobab oil อุดมไปด้วย Vitamin A, D, E, F ซึ่งเหล่านี้ช่วยล็อคความชุ่มชื้นของหนังศีรษะ เสริมสร้างความแข็งแรงให้รากผม
สูตรแนะนำ
1. Promoting hair growth กระตุ้นการเติบโตของเส้นผม
- Baobab oil 30ml
- Cedarwood essential oil 1-1.5%
2. Repair dry & damaged hair บำรุงผมแห้งเสีย
- Rosemary 2 drops
- Lavender 2 drops
- Tea tree 2 drops
- Jojoba oil 30 ml
3. for hair loss บำรุงผมขาดหลุดร่วงง่าย
- Almond oil 20ml
- Melon oil 10ml
- Lavender essential oil 1-1.5%