AGARWOOD ESSENTIAL OIL - GRADE A (น้ำมันหอมระเหยไม้กฤษณาเกรด A)
สำหรับขนาด 12g. กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อทำการสั่งซื้อหรือขอข้อมูลเพิ่มเติม
For big size,Please contact staff for more information.
Tel : 02-930-6799,02-939-0619 ext.11,20
E-mail : [email protected]
Agarwood Essential Oil หรือน้ำมันหอมระเหยไม้กฤษณา ลักษณะของเนื้อไม้กฤษณาจะมีทั้งแบบเนื้อไม้ปกติและแบบเนื้อไม้หอมที่มีน้ำมันกฤษณาโดยก่อนการนำไม้มาสกัดนั้นจะต้องมีการกระตุ้นให้ไม้สารหอมที่แก่นไม้ขึ้นมาก่อน เนื้อไม้ปกติจะมีสีขาวนวลเมื่อตัดใหม่ ๆ และต่อมาจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน ส่วนเนื้อไม้หอมที่มีน้ำมันจะมีสีดำ หนักและจมน้ำได้ ซึ่งคุณภาพของเนื้อไม้ชนิดนี้จะขึ้นอยู่กับปริมาณของน้ำมันภายในเซลล์ต่าง ๆ ของเนื้อไม้
Agarwood Essential Oil Grade A จะใช้ไม้หยาบซึ่งเป็นไม้ที่ติดน้ำมันน้อยสุดและใช้น้ำผึ้งกระตุ้นไม้ให้หลั่งสารหอมโดยไม่ได้ใช้สารเคมีหลังจากนั้นเลือกตัดไม้ใหญ่ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปเพื่อนำมากลั่นด้วยไอน้ำ Agarwood Essential Oil Grade A เมื่อกลั่นเสร็จจะจำหน่ายทันทีไม่ผ่านการบ่มกลิ่น
ความแตกต่างของ Agarwood Essential Oil แต่ละเกรดขึ้นอยู่กับ
- ระยะเวลาการเก็บบ่มกลิ่นยิ่งเก็บนานจะมีกลิ่นที่หอมหวานมากขึ้นแลราคาแพงขึ้นตามลำดับ
- ระยะห่างของแก่นไม้ตอนสกัด
ความแตกต่างของ Agarwood Essential Oil ทั้ง 4 เกรด
1.Agarwood Essential Oil Grade A ใช้ไม้หยาบที่อยู่ห่างจากแก่นไม้มากสุดซึ่งติดน้ำมันน้อยสุดเมื่อกลั่นเสร็จจะจำหน่ายทันทีไม่ผ่านการบ่มกลิ่น
2.Agarwood Essential Oil Grade AA จะใช้ไม้ละเอียดอยู่ใกล้แก่นไม้มากขึ้นเมื่อกลั่นเสร็จแล้วเก็บบ่มกลิ่นไว้ 1-2 ปี
3.Agarwood Essential Oil Grade AAA จะใช้ไม้ขี้สิ่วอยู่ใกล้แก่นไม้มากสุดซึ่งติดน้ำมันมากเมื่อกลั่นเสร็จแล้วเก็บบ่มกลิ่นไว้ 3 ปี
4.Agarwood Essential Oil Grade Super Oil จะใช้ไม้ขี้สิ่วอยู่ใกล้แก่นไม้มากสุดซึ่งติดน้ำมันมากเมื่อกลั่นเสร็จแล้วเก็บบ่มกลิ่นไว้ 3-5 ปี
ประโยชน์
1.ใช้ผสมเข้าเครื่องหอมทุกชนิด หรือนำมาใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องหอม เช่น น้ำอบไทย น้ำมันหอมระเหย ธูปหอม ยาหอม เป็นต้น
2.น้ำมันหอมระเหยจากกฤษณา สามารถนำมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตน้ำหอมและเครื่องสำอางได้ ซึ่งทางยุโรปนิยมนำมาปรุงเป็นน้ำหอมกฤษณาชนิดคุณภาพดี ที่ใช้แล้วติดผิวกายได้นานยิ่งขึ้น
3.ชาวปาร์ซี (Parsee) และชาวอาหรับ นิยมใช้ไม้หอมของต้นกฤษณามาเผาไฟเพื่อใช้อบห้องให้มีกลิ่นหอมส่วนชาวฮินดูจะนิยมนำมาใช้จุดไฟ เพื่อให้กลิ่นหอมในโบสถ์
4.ชาวอาหรับนิยมใช้น้ำมันหอมระเหยกฤษณามาทาตัวเพื่อเป็นเครื่องประทินผิว ติดทนผิวหนังได้นาน และยังสามารถช่วยป้องกันแมลงต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
อ้างอิงข้อมูล https://medthai.com
วิธีใช้
- ใช้เป็นส่วนผสมให้กลิ่นในสูตรเครื่องสำอางต่างๆ
- ควรเจือจางก่อนนำมาสัมผัสผิวโดยตรง
- ใช้ภายนอกเท่านั้น
อัตราส่วนที่แนะนำ
น้ำมันนวดตัว 2 - 2.5%
น้ำมันนวดหน้า 0.1 – 0.5%
ใช้ประคบ 10 หยด
ยาขี้ผึ้ง 3%
ครีมและโลชั่น 1 - 1.5%
อาบน้ำ 10 หยดอย่างมาก โดยหยดลดในอ่างอาบน้ำ
ทาแก้แมลงสัตว์กัดต่อย 2 – 2.5%
แชมพูและครีมนวดผม 1 – 1.5%
ทำความสะอาดพื้น 2%
ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ 2%
การเก็บรักษา : บรรจุในภาชนะที่ปิดสนิทและทึบแนะนำเป็นขวดแก้วสีชาหรือขวดอลูมิเนียม สามารถเก็บที่อุณหภูมิห้องปกติได้ ห้ามเก็บในที่ร้อนจัดหรือโดนแสงแดดส่องโดยตรง
ข้อควรระวัง : หากใช้แล้วเกิดการระคายเคืองควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์ / ควรเจือจางก่อนนำมาสัมผัสผิวโดยตรง / เด็ก,ผู้ป่วย,สตรีมีครรภ์และระหว่างให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้งาน
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ | Agarwood Subintegra |
---|---|
แหล่งกำเนิด | Thailand |
ส่วนของพืช | Wood |
วิธีสกัด | Steam distillation |
สี | Dark yellow-brown liquid |
กลิ่น | Characteristic |
กลิ่นที่เข้ากันได้ดี | bergamot, chamomile, clary sage, geranium, ginger, grapefruit, jasmine, lavender, lemon, mandarin, palmarosa, rose, sandalwood, vanilla, ylang ylang |
ระดับกลิ่น | Base Note |
ประเภทใช้งาน | สินค้าใช้ภายนอกเท่านั้น |
ข้อควรระวัง | หากใช้แล้วเกิดการระคายเคืองควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์ / ควรเจือจางก่อนนำมาสัมผัสผิวโดยตรง / เด็ก,ผู้ป่วย,สตรีมีครรภ์และระหว่างให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้งาน |
วิธีการใช้งาน | อัตราส่วนการผสมน้ำมันหอมระเหย - น้ำมันนวดตัว 2 - 2.5% - น้ำมันนวดหน้า 0.1 – 0.5% - ใช้ประคบ 10 หยด - ยาขี้ผึ้ง 3% - ครีมและโลชั่น 1 - 1.5% - อาบน้ำ 10 หยดอย่างมาก โดยหยดลดในอ่างอาบน้ำ - ทาแก้แมลงสัตว์กัดต่อย 2 – 2.5% - แชมพูและครีมนวดผม 1 – 1.5% - ทำความสะอาดพื้น 2% - ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ 2% |